ปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำ

ปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำที่นิยมใช้ปั๊มระบบหมุนรอบแกนเพลา (Centrifugal Pump) ควรเป็นที่ให้ปริมาตร (Volume) สูง ๆ ความดันปานกลาง ควรมีตะกร้าดักผงหน้าปั๊ม เพื่อป้องกันตะกอนใหญ่ ซึ่งจะทำให้ใบพัดปั๊มอุดตัน อันจะทำให้ปริมาตรปั๊มน้ำลดลงมาก และอาจเป็นสาเหตุให้มอเตอร์ไหม้ได้ อีกประการหนึ่ง ใช้เป็นส่วนช่วยดึงน้ำ (Self Priming Pump)

กรณีที่ตั้งปั๊มสูงกว่าระดับผิวน้ำที่สูงระบบหน้า-หลังปั๊ม มีชุดป้องกันการสั่นสะเทือน และการกระแทกของน้ำด้วยสายอ่อน สแตนเลส พร้อมด้วย Check Valve ป้องกันน้ำย้อนกลับ และน้ำหมุนวนกลับของปั๊มข้างเคียง

ข้อควรจำ ขณะปั๊มน้ำทำงานต้องมีน้ำอยู่เสมอ ทั้งทางเข้าและทางออกมิเช่นนั้นจะเกิดความร้อน ทำความเสียหายต่อระบบท่อหน้าและหลังปั๊มน้ำ จนอาจทำให้มอเตอร์ปั๊มไหม้ได้ ซึ่งถ้าเกิดกรณีนี้ทางบริษัท ถือเป็นหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายนี้ การป้องกัน เมื่อเปิดเครื่องแล้วทุกครั้งต้องตรวจสอบว่าวาล์วหน้าปั๊มเปิดอยู่ และมีน้ำอยู่ในปั๊มที่กำลังทำงานจุดตรวจอีกจุดคือ ดูแรงดันของน้ำที่ถังกรองหรือดูแรงดันน้ำที่วาล์วไล่ลม เป็นต้น

ระบบควบคุมปั๊มน้ำ
ชุดควบคุมแบ่งเป็น 5 วงจรย่อย ต่อด้วยวงจรสตาร์เดลต้า พร้อมแมกเนติกคอนแทรกเตอร์ และโอเวอร์โหลด กระแสไฟที่เข้าระบบทั้งหมดจะถูกตรวจสอบด้วยเฟสคอนโทรล ซึ่งถ้าไฟมาไม่ครบเฟสระบบจะถูกตัดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ปั๊มน้ำ การตรวจสอบโดยดูไฟโชว์เฟส (LAMP) ทั้ง 3 ต้องติดสว่าง จึงเริ่มเปิดเครื่องใหม่

พอสรุปได้ว่า ระบบควบคุมนี้สามารถป้องกัน และควบคุมปั๊มน้ำไม่ให้เกิดความเสียหายจากไฟตก ไฟเกิน ปั๊มทำงานหนักเกินไป หรือกรณีเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้เกือบทั้งหมด การเปิด-ปิดปั๊มน้ำ โดยปิดสวิตช์ หรือกดปุ่มเขียวปั๊มหมายเลขที่ต้องการ ควรทิ้งช่วงการเปิดปั๊มแต่ละตัว 20-30 วินาที เพื่อป้องกันกระแสไฟสะดุดช่วงจังหวะเปลี่ยน สตาร์ท และเดลต้าเซอร์กิต แมกเนติก และโอเวอร์โหลด ทำหน้าที่ตัดวงจรเมื่อเกิดไฟลัดวงจร หรือไฟเกินจนเกิดระดับหนึ่ง เริ่มต้นวงจรใหม่โดยเปิดสะพานไฟของวงจรปั๊ม (ยกสะพานไฟ ไม่ให้กระแสไฟไหลผ่าน) ให้สุด กดปุ่ม Reset ที่ชุดโอเวอร์โหลด แล้วจึงเริ่มเดินเครื่องใหม่

คำแนะนำการเริ่มใช้งานหรือการสูบน้ำ

  • เติมน้ำที่ช่องกรองจนถึงระดับท่อดูด อย่าเปิดปั๊มน้ำโดยไม่มีน้ำ น้ำจะทำหน้าที่เป็นตัวหล่อเย็น และหล่อลื่นให้กับซีล-เพลา
  • การเปิดวาล์วน้ำเพื่อการกรองน้ำหมุนเวียนในสระว่ายน้ำ พร้อมทั้งไล่อากาศออกจากกรอง (หากมี)
  • ให้ปิดวาล์วแท็งก์น้ำล้นเปิดวาล์วน้ำสะดือ และวาล์วน้ำจ่ายสระว่ายน้ำ
    ข้อควรระวัง : วาล์วดูด และจ่ายทั้งหมด จะต้องเปิดเมื่อระบบเริ่มทำงาน หากไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ หรือ เกิดความเสียหายได้ , เปิดสวิทช์ และรอการสูบน้ำสักครู่ ไม่เกิน 5 นาที (เวลาสูบน้ำขึ้นอยู่กับระยะดูด และความยาวของท่อดูด)

การดูแลรักษาปั๊มน้ำ

  1. ทำความสะอาดตะกร้าปั๊มเป็นประจำ เพื่อทำความสะอาด ตรวจสอบยางโอริงฝาตัวกรองเป็นประจำ และให้เปลี่ยนใหม่หากจำเป็น
  2. ปั๊มน้ำ จะมีลูกปืนมอเตอร์ที่หล่อลื่นตัวเอง และ ซีลกันเพลา ไม่จำเป็นต้องใช้การหล่อลื่นเพิ่ม
  3. รักษามอเตอร์ให้สะอาด โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งของไปขวางช่องระบายอากาศ
    คำแนะนำ การแก้ปัญหา

ก) มอเตอร์ไม่ทำงาน ; ให้ตรวจสอบว่ามีการต่อสายที่ไม่ถูกต้อง หรือ หลวมไปหรือไม่ , เปิดสวิทช์หรือ รีเลย์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือ ฟิวส์ และตรวจสอบการหมุนของเพลามอเตอร์ว่า เคลื่อนที่ได้โดยไม่ติดขัด และ ไม่มีอะไรไปขัด
ข) มอเตอร์ตัดการทำงาน ; ให้ตรวจการเดินสายไฟ การต่อสาย หรือ กระแสไฟที่มอเตอร์ต่ำไป (มักจะเกิดจากการเดินสายไฟที่เล็กเกินไป) กินกระแสมากไป
ข้อสังเกต : เมื่อมีความร้อนเกินกำหนด มอเตอร์จะตัดการทำงานโดยอัตโนมัติภายใต้สภาวะการทำงานปกติก่อนความร้อนจะสร้างความเสียหายกับอุปกรณ์ และ มอเตอร์จะเริ่มทำงานใหม่เมื่ออยู่ในความร้อนที่ปลอดภัย
ค) มอเตอร์มีเสียงฮัม แต่ไม่ทำงาน: ให้ตรวจตัวควบคุมความเร็วค้าง หรือ คาปาซิเตอร์เปิด (ไม่มีในมอเตอร์รุ่น 3 แรงม้า)
ง) ปั๊มไม่สูบน้ำ
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปั๊ม กรอง ยังมีน้ำอยู่ และปะเก็นฝาสะอาดและอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ขันน๊อตให้แน่น
2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวาล์วดูดและปล่อยเปิดอยู่ และไม่มีอะไรมาอุดตัน และ ระดับน้ำในบ่ออยู่เหนือปลายท่อดูด
3. การปิดกั้นทางดูดให้ใกล้กับปั๊มมากที่สุด และปั๊มจะเริ่มดูด หากปั๊มไม่เริ่มดูดและปั๊มมีน้ำที่จะสูบไม่พอ
3.1 ขันน๊อตและส่วนประกอบของท่อดูดทั้งหมดให้แน่น
3.2 ตรวจสอบโวลต์ เพื่อให้แน่ใจว่าปั๊มมีความเร็วถึงที่กำหนด
3.3 เปิดปั๊มดูว่ามีโคลนหรือสิ่งอุดตันหรือไม่
3.4 ถอดและประกอบซีลเพลาใหม่
หากปั๊มเริ่มดูด ตรวจสอบแนวกั้นทางดูดหรือตัวกรอง หรือการรั่วของอากาศในท่อดูด
จ) ไหลน้อย – ปกติแล้วให้ตรวจ
1. ตัวกรอง หรือ ท่อดูด มีโคลนหรือสิ่งอุดตันหรือไม่ , ท่อน้ำเล็กเกินไป
2. ท่อปล่อยน้ำของกรองถูกปิด หรืออุดตัน
3. มีการรั่วซึมของอากาศในท่อดูด (มีฟองอากาศปรากฏขึ้นมา)
4. ปั๊มทำงานด้วยความเร็วต่ำเกินไป (โวลท์ต่ำ)
5. ใบพัดถูกอุดหรือติดขัด
ฉ) ปั๊มมีเสียงดัง ให้ตรวจ
1. มีการรั่วของอากาศในท่อดูด ทำให้เกิดเสียงดังในปั๊ม
2. การเป็นโพรงเนื่องจากท่อดูด ถูกอุดหรือมีขนาดเล็ก และท่อปล่อยน้ำมีขนาดเล็ก แก้ไขการดูดหรือวาล์วปล่อยน้ำ หากทำได้
3. การสั่นอันเนื่องจากการยึดที่ไม่ดี ฯลฯ
4. มีสิ่งแปลกปลอมในตัวปั๊ม
5. ลูกปืนมอเตอร์ไม่ดีเนื่องจากเสื่อมสภาพ เป็นสนิม หรือ ร้อนเกินไป

การเปิดวาล์วน้ำเพื่อการกรองน้ำหมุนเวียนในสระว่ายน้ำให้ปิดวาล์วแท็งก์น้ำล้นเปิดวาล์วน้ำสะดือ และวาล์วน้ำจ่ายสระว่ายน้ำ